Category: Guidebook

เด็กที่โตมาพร้อมกับการอ่านหนังสือไม่คล่อง สะกดคำก็ไม่ค่อยจะถูก วิธีการฝึกฝนมีดังต่อไปนี้ วิธีที่ดีที่สุดสำหรับจะให้ลูกนั้นอ่านออกเขียนง่ายได้ไว คือการสอนสะกดคำ แจกลูก หัดท่องจำไล่ตัวหนังสือ และต้องอาศัยการฝึกสอนแบบซ้ำ หรือ วน ไปมาบ่อยๆ สอนตามลำดับขึ้นตอนอย่าข้าม ซึ่งในการสอนให้อ่านหนังสือมีดังต่อไปนี้ เรียนรู้ยัญชนะ โดยขั้นตอนแรกต้องให้คุณพ่อและคุณแม่นั้นสอนลูกให้รู้จักกับพยัญชนะทั้ง 44 ตัวก่อน ให้ลูกเรียนรู้กับสระไทย ค่อยๆสอน สอนให้สามารถอ่านและออกเสียงได้ พร้อมหัดเขียนไปด้วย สอนการสะกดคำ และแจกลูก ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับการอ่านและเขียน การสอนสะกดคำคือ การแยกส่วนของคำออกจากกัน เช่นสะกดคำว่า “ชา” ให้อ่านออกเสียง ชอ-อา-ชา เป็นต้น ส่วนเรื่องการแจกลูก หมายความว่าการแตกส่วนผสมออกไปเพื่อไปฝึกผสมคำ เช่น มะ มา มิ มี หรือ กา ขา คา เป็นต้น เริ่มเรียนการผันวรรณยุกต์ โดยให้ยึดหนังสือเรียนเป็นหลัก จะได้อ่านคล่องและไม่อยากจนเกินไป สอนให้ลูกอ่านเขียนคำที่สะกดตรงตามมาตรา และรวมไปถึงสอนการผันวรรณยุกต์ หลังจากที่เข้าใจในการสะกดคำตรงมาตราแล้ว ลองให้หัดอ่าน และเขียนคำที่ไม่ต้องตรงมาตราบ้าง betflixjoker ฝึกการอ่านคำควบกล้ำ และต่อด้วยอักษรนำ ท้ายสุดคือการสอนตัวคำ ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ และตัวอักษรที่มีลักษณะพิเศษ

ก่อนที่เราจะมาแนะนำหนังสือที่ดีต่อการพัฒนาสติปัญญาลูกน้อยของคุณ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าว่า ทักษะสมองเพื่อชีวิตที่สำเร็จ หรือ Executive Functions (EF) คืออะไร Executive Functions (EF) เป็น กระบวนการในสมองที่อยู่ส่วนหน้าซึ่งมนุษย์ทุกคนต้องมี มันมีหน้าที่ใช้ในการคิด , ความรู้สึก อีกทั้งยังเป็นตัวกำหนดการกระทำอีกด้วย ถ้า EF ได้รับการฝึกฝนพัฒนาตั้งแต่เด็กๆจนกลายเป็นทักษะติดตัว มันก็จะส่งผลความสำคัญอย่างยิ่งยวด ทั้งในเรื่องของความสำเร็จในการเรียน , การทำงาน , เป็นคนเห็นคุณค่าในตัวเอง รวมทั้งการสร้างสัมพันธภาพอันดีงามกับผู้อื่นๆ ในตลอดชีวิต การอ่านเป็นหนึ่งในการส่งเสริม EF ให้กับเด็ก ตอนที่เด็กยังอ่านหนังสือไม่ออก ก็ต้องผ่านกระบวนการที่ผู้ใหญ่อ่านหนังสือให้ฟัง ซึ่งตรงนี้ก็สามารถก่อทักษะ EF ได้หลายด้าน เกิดการพัฒนาขึ้นในสมองของเด็ก นั่นก็คือ การเกิดสมาธิจดจ่อตั้งใจฟัง เพราะเด็กต้องหยุดกิจกรรมทุกอย่างเพื่อมาฟัง เด็กจะอยู่กับปัจจุบัน เด็กจะมีความรู้สึกคล้ายตามเนื้อหา เกิดจินตนาการ มีการนำข้อมูลใหม่ๆ ไปเชื่อมโยงกับข้อมูลเดิมในสมอง เวลานั่งฟังหรือนอนฟัง อารมณ์ของเด็กจะเกิดความสงบ หรือพลิ้วไหวไปตามเนื้อเรื่อง บางครั้งก็อาจนำให้เด็กเกิดความคิดสะท้อนกลับมายังตนเอง นอกจากการส่งเสริมทักษะสมอง EF แล้ว เนื้อหาของหนังสือเด็ก ก็ยังมีจุดหมายอื่นๆบางประการ เพื่อเสริมสร้างลักษณะนิสัยบางอย่าง โดยมีความสอดคล้องกับพัฒนาทักษะ EF ซึ่งช่วยให้การพัฒนาทวีความสามารถขึ้นไปอีก เช่น หนังสือที่มุ่งเน้นส่งเสริมความคิดไตร่ตรอง […]

หนังสือคือคลังความรู้อันไม่มีวันสิ้นสุด อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมในเรื่องของจินตนาการ รวมทั้งพัฒนาทักษะการอ่านของเด็กๆอีกด้วย การอ่านคือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ในขั้นสูง อีกทั้งยังสร้างความเพลิดเพลินในแบบให้ประโยชน์แก่เด็กๆ แต่ควรจะเลือกหนังสือให้เด็กๆ อ่านยังไงถึงจะเหมาะสมกับวัยนะ วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก เด็กอายุ 3-18 เดือน สำหรับเด็กวันนี้จำเป็นต้องการกระตุ้นการรับรู้ในเรื่องเสียงและเรื่องสีต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา เด็กวัยนี้ยังไม่รู้จักหนังสือดีเท่าไหร่ แต่จะมองเปรียบเสมือนเหมือนกับของเล่นชิ้นหนึ่งเท่านั้นเอง เขาจะเข้าใจว่ามันเป็นของเล่นทรงสี่เหลี่ยมที่มีภาพอยู่ข้างใน สามารถเปิด-ปิดได้ เด็กวัยนี้จะรู้สึกสนุกและรู้สึกชอบมากขึ้น เมื่อเปิดไปเจอรูปในหนังสือที่มีรูปร่างน่ารัก สีสันดึงดูดสายตา ไม่ว่าจะเป็นสัตว์,ผัก-ผลไม้ หรือสิ่งของรอบตัวที่เคยเห็นในชีวิตจริง และเด็กอายุ 3-18 เดือนก็มีความรู้สึกสนใจฟังเสียงรวมทั้งภาษาอันมีจังหวะอีกด้วย แนะนำ หนังสือเปิดมามีเสียง เป็นนำนองฟังง่ายๆเพราะๆ หรือบทกวีอันน่าสนใจ หนังสือมีภาพสัตว์ , ผัก – ผลไม้ , รถ มีสีสันสดใสดึงดูดตา เด็กอายุ 2-3 ปี เด็กอายุ 2-3 ปี เริ่มเข้าใจว่าหนังสือคืออะไร และมีความชอบในหนังสือที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นควรให้เด็กเลือกหนังสือที่ตนเองสนใจไม่ใช่พ่อ – แม่สนใจ เพราะมันคือความสุขของลูก ช่วง 3 ขวบ เป็นช่วงที่เด็กมีพัฒนาการทางภาษาเพิ่มมากขึ้น บวกกับเริ่มมีจินตนาการสร้างสรรค์อันบันเจิด ,อยากรู้อยากเห็น ถ้าเด็กวัยนี้ได้รับประสบการณ์ทางหนังสือที่ดี อ่านแล้วชอบมีความสุข มันก็จะกลายเป็นพื้นฐานในการสร้างนิสัยรักการอ่านตอนโตได้ แนะนำ นิทานก่อนนอน […]

หนังสือนิทานสมัยนี้ต้องบอกเลยว่ามีความหลากหลายทั้งในเรื่องของเนื้อหา และ วิธีการนำเสนอ นั่นทำให้เด็กๆ สามารถพบเจอหนังสือนิทานคุณภาพอย่างหลากหลายไปด้วย วันนี้เราจะขอนำเสนอนิทานสำหรับเด็กอีกสองเล่ม เล่มแรกเด่นที่การนำเสนอเนื้อหาสองมิติ อีกเล่มหนึ่งเด่นที่เรื่องของภาพและเนื้อหาที่ดูง่ายแต่กลับให้ความหมายอย่างลึกซึ้งแก่ผู้อ่าน กบยู่อวดดี กบมี่ถ่อมตัว เล่มแรกชื่อว่า กบยู่อวดดี กบมี่ถ่อมตัว แต่งโดย เกวลิน กายทอง ภาพโดย เชษฐ์สุดา มีเงิน เนื้อหาเป็นเรื่องราวต่างมิติสองมุมมองของกบเพื่อนรักสองตัวชื่อว่ากบยู่ และกบมี่ ที่พวกเค้าต้องอยู่ร่วมกัน เจอปัญหาร่วมกันแต่การแสดงออกของทั้งคู่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จนเกิดการทะเลาะกันขึ้น สุดท้ายเมื่อทั้งคู่ต้องอยู่คนเดียวต่างก็รู้ว่าการแก้ปัญหาด้วยตัวคนเดียวนั้นไม่สำเร็จ จึงกลับมาร่วมมือกันและเล่นด้วยกันเหมือนเดิม นอกจากภาพที่ทำออกมาได้น่ารักสดใส สมกับหนังสือสำหรับเด็กแล้ว สิ่งที่เด่นที่สุดต้องเป็นเรื่องกลวิธีนำเสนอที่ทำหนังสือออกเป็นสองด้านกลับหัว แต่ละด้านเป็นการนำเสนอวิธีการคิดและมุมมองของกบแต่ละตัว เป็นการฝึกให้เด็กอ่านแล้วรู้จักมองเรื่องราวออกเป็นหลากหลายมิติและฝึกการยอมรับในความแตกต่างระหว่างบุคคลได้เป็นอย่างดี ทำให้เค้ามีความพร้อมสำหรับการเข้าสู่สังคมของตัวเองในอนาคต ราคา 75 บาทไม่แพงเลยสำหรับเล่มนี้ทั้งเนื้อหาวิธีการนำเสนอที่แตกต่างหาได้ยากในท้องตลาด   ก็แค่หมวกใบกระจิริด เล่มที่สองเป็นหนังสือแปลจากเรื่อง Just a Wee Hat! ต้นฉบับเขียนและวาดภาพโดย เบ็กกี้ บลูม  แปลโดย สิริพงศ์ สุวรรณโภคิน จัดทำโดยสำนักพิมพ์ นานมีบุ๊คส์คิดดี้ ราคา 55 บาท เนื้อหาเป็นเรื่องราวของสัตว์กลุ่มหนึ่งนำโดยคุณหมี ที่นำกรวยน้ำเก่าๆ มาทำเป็นหมวก เมื่อสัตว์ตัวอื่นเห็นดังนั้นจึงทำตามกันประดิษฐ์หมวกใส่ด้วยกันหมด แม้ว่าจะทำให้ชีวิตของพวกเค้าลำบากขึ้นก็ตาม เรื่องราวมาถึงมาสัตว์ทั้งหลายต้องตัดสินใจว่าจะเล่นน้ำแล้วเสียหมวกไป หรือรักษาหมวกไว้แต่ไม่ได้เล่นน้ำ  […]